หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

วิธีทำม่านพับจากเสื่อกก หรือเสื่อไม้ไผ่ แบบง่ายๆ และประหยัด

       ม่านพับ ทั้งแบบผ้า และไม้ไผ่ เยื่อไม้ต่างๆที่ขายตามร้านรับติดตั้งผ้าม่าน สวยก็จริงค่ะ แต่ราคาก็ สู้ไม่ไหว หากงบน้อย ยิ่งถ้าใครชอบม่านที่ทำจากไม้ หรือเยื่อไม้ ไม้ไผ่ด้วยแล้ว ราคาปกติตกตารางหลาละ1,000-1,800บาท เท่าที่สอบถามและเช็คมา

        ถ้าเป็นช่วงลดราคา ล้างสต๊อก หรืออย่างช่วงนี้ที่ลกราคาเพื่อช่วยผู้ประสบภัย ที่เห็นหลายๆร้าน ลดราคาลงมาเหลือ ตารางหลาละ 490-1,400 บาท แล้วแต่ร้านนะคะ ราคาต่างกันเยอะๆนี่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าความสวยงาม ปราณีต จะต่างกันมากตามไปด้วยรึเปล่า ถ้าเป็นแบบใช้ผ้า เห็นมีแบบเหมาทั้งหลัง 8,500-11,000บาท ก็มี (แต่ไม่รู้ว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้างนะคะ ว่าต้องเป็นม่านแบบไหน)

พอดีช่วงนี้กำลังอยากทำม่านพับไม้ไผ่อยู่พอดี เลยเริ่มเช็คราคา และหาวัสดุและแบบเพื่อเอามาช่วยให้เกิดไอเดียและวิธีทำ และพอดีได้มูลี่ไม้ไผ่ในราคาที่พอใจมาแล้ว (แต่รอทำให้เสร็จเป็นรูปเป็นร่างตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งจะนำมาแชร์ให้เพื่อนๆดูอีกบล็อกนึงหลังจากเสร็จแล้วนะคะ ) แต่เกิดไปเห็นแบบม่านไม้ไผ่ หรือวัสดุจากธรรมชาติต่างๆมากมายในเวบจีน และเวบร้านม่าน ซึ่งพอเช็ค ถึงได้รู้ว่า ส่วนใหญ่ล้วนนำเข้ามาจากเมืองจีน ดินแดนม่านไม้ไผ่ ซึ่งทางร้านสั่งซื้อเข้ามาเป็นม้วนใหญ่ แล้วเอามาตัดตามขนาดที่ลูกค้าต้องการ และตกแต่งเพื่อเพิ่มความสวยงาม อีกที เช่นกุ๊นขอบด้วยผ้า นำมาทำม่านพับแบบต่างๆ








ดูๆไปแล้ว มันมีลํกษณะคล้ายเสื่อเลยค่ะ เสื่อกกเรียบๆที่กุ๊นขอบสีน้ำตาลมาให้แล้วของบ้านเรา ราคาก็ประหยัด เสื่อจันทบูรณ์ เสื่อกระจูด เสื่อลายขิด หรือ เสื่อไม้ไผ่ ที่ทำจากไม้ไผ่แบบแบนๆเล็กๆ ที่นำเข้าจากจีนแบบทั่วๆไป

 http://www.thaitambon.com/tambon/tsmeplist.asp?ID=311103&page=1&SME=0111810533
 เสื่อขายขิด

อันนี้เป็นมูลี่เสื่อกกของไทยที่ส่งขายออกต่างประเทศ

ราคาเสื่อกกตามท้องตลาดแถวจัตุจักร ที่เช็คมา กว้าง 1.5*2เมตร ตกราคา280-370 บาทต่อผืน แล้วแต่ร้าน ยิ่งถ้าซื้อจากท้องถิ่นที่ส่งเข้ามาขายในกรุงเทพด้วยแล้ว ยิ่งถูกเข้าไปอีก ซื้อหลายผืนก็ยิ่งถูก มีทั้ง50-100 บาทต่อผืนเองค่ะ ถ้าอยากได้ขนาดตามต้องการเลย ก็สั่งได้ แต่ต้องรอของนิกนึง ถ้าสั่งผ่านร้านในกรุงเทพ (แถวถนนกำแพงเพรช2 ตรงข้าม เจเจมอลล์) ก็ต้องมีขั้นต่ำ 10ผืน

ม่านไม้ไผ่ก็มี (อย่าไปเอาแบบที่มีสักหลาดอีกด้านนะคะ อันนั้นจะแพงเป็นพันต่อผืน เพราะเค้าใส่ไว้เพื่อกันลื่น ส่วนใหญ่จะเอาไปทำเป็นพรมมากกว่า แต่ให้เลือกหาแบบธรรมดา ที่ 2 หน้าเหมือนกัน ราคาถูกสุดที่ไปเจอมาก็ 350 บาท สำหรับเสื่อไม้ไผ่ หน้ากว้าง 1.5*2เมตร ที่ ร้านอมรพัน ฟอร์จูน




ข้อดี ของการใช้เสื่อมาทำคือ เราไม่ต้องมาทำกุ๊นขอบเอง แต่ต้องหาอุปกรณ์พวกรอกและเชือกไนล่อนเอง ซึ่งก็หาได้ตามร้านผ้าม่านทั่วๆไปค่ะ


อ้อ อีกอย่างที่ต้องใช้ คือ ไม้ ที่จะมาทำราวแขวนม่านพับ  ขนาด จริงๆแล้ว ก็แล้วแต่ความชอบของเรา จะเล็กใหญ่ จริงๆแล้วก็มองไม่ค่อยเห็นหรอกค่ะ ความยาวเท่าความกว้างของเสื่อที่ใช้

 ในที่นี้จะทำม่านลักษณะนี้นะคะ


มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
  •       ตัวอย่างภาพsket ประกอบให้เห็นภาพมากขึ้น  สมมุติที่ขนาดเสื่อกกกว้าง1.2 *2เมตร


     1.แบ่งขนาด โดยด้านบน คือส่วนที่จะพับมาปิดไม้ และรอกที่จะใช้ดึง เพื่อให้เสื่อพับขึ้น ในที่นี้ เอ๋ประมาณไว้ 40 ซม


ในที่นี้ จะทำพับเดียว (หลายพับ ตอนทำภาพจำลองมันยุ่งยาก ขี้เกียจหน่ะค่ะ )

    2. นำไม้มาวางตรงตำแหน่งที่ต้องการ แล้วยึดติดกับเสื่อ


ยึดไม้กับเสื่อด้วย ตัวหูเกี่ยวห่วงแขวนม่าน

มีขายทั่วไป ราคาตัวละ 5บาท โดยประมาณ ถ้าซื้อยกโหล หรือเยอะ คงถูกกว่านี้ค่ะ
     3. ตอกตาไก่ ขนาดเล็ก แค่พอเชือกลอดผ่่านไปได้ค่ะ แล้ว ติดรอกและตัวหยุดเชือก บนแผ่นไม้ตามรูป


  พอพับเสื่อด้านบนลงมาก็จะเป็นดังรูป


เพื่อใช้ยึดม่านติดด้านบนกับขอบวงกบ
โดยยึดสกรูเกลียวเอาไว้ก่อน แต่ไม่ต้องไขให้แนน เหลือที่ไว้ให้พอสอดหูเพื่อเกี่ยวยึดได้ ดังรูป

 ส่วนที่เป็นสีขาวจางๆด้านบน สมมุติว่าเป็นวงกบ หรือเพดานปูที่เราฝังสกรูไว้แล้ว

หรือ ถ้าใครจะใช้อุปกรณ์ขาราง ที่ใช้ยึดรางม่านพับที่มีขายทั่วไปก็ได้

หรือใครจะติดตัวแขวนด้านหลังแทนก็ได้นะคะ ถ้าไม่ถนัดแขวนจากด้านบน หรือลักษณะหน้าต้างประตู ไม่อำนวย

     4.ติดแถบผ้า ไว้สำหรับใส่เหล็กเส้น ไม้เส้น หรือวัสดุอื่นๆ ตามแต่จะหาได้ เพื่อใช้ถ่วงน้ำหนักเสื่อ ไม่ให้ม้วน หรือหยอนคล้อย ด้วย เทบผ้า หรือ ผ้ากุ๊น หรือริบบิ้นแทนก็ได้นะคะ


จริงๆขั้นตอนนี้ จะทำหรือไม่ทำก็ได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเสื่อที่เลือกใช้ ทั้งความหนา ลักษณะการทอ วัตถุดิบที่ใช้ทำเสื่อ และรวมถึงน้ำหนัก ของเสื่อแต่ละแบบแต่ละประเภทด้วยค่ะ ยิ่งถ้าเป็นเสื่อไม้ไผ่ ยิ่งไม่จำเป็นเลยค่ะ เพราะจะทิ้งตัวดีอยู่แล้ว นอกจากนี้ ปัจจัยอีกอย่างก็คือ ความกว้างของเสื่อที่ใช้อีกด้วยค่ะ

ติดห่วงกลม เย็บห่วงกลมติดตามระยะ ที่ต้องการดึงขึ้นได้ ในที่นี้เอ๋วัดลงมา 1เมตร เพราะจะดึงขึ้นแค่พับเดียว

     จะเห็นว่า ม่านพับมีหลายแบบ การวัดระยะอาจจะแตกต่างกัน ตรงที่ ไม่จำเป็นต้องดึงจากปลายผืนม่าน ปลายเสื่อสามารถใช้เป็นชั้นนึงของม่านพับได้เลยค่ะ เหมือนอย่างด้านบนสุดที่พับมาปิดแผ่นไม้และตัวรอกก็เช่นกันค่ะ ก็จะถือเป็นพับนึงไปเลยในตัวได้ค่ะ

ตัวอย่างการพับม่านพับและวิธีการติดม่านพับแต่ละแบบ

ติดแบบทับขอบวงกบ



แบบติด ในขอบ




     5. ร้อยเชือกสำหรับใช้ดึงให้พับ



ปลายเชือก ที่ร้อยมารวมกันที่ตัวหยุด เราจะหาตุ้มไม้ สวยๆมาใส่ก็ได้ค่ะ

     หรือแทนที่จะใช้เชือก2เส้น เราอาจร้อยเชือกโดยใช้เชือกเส้นเดียวยาวเลยก็ได้นะคะ โดยการนำเชือกยาวเท่ากับที่จะต้องใช้จริงทั้งหมด แค่ 1 เส้นมาทบกัน แล้วร้อยด้านที่ที่ทบเข้าตัวหยุดจากทางขวาไปซ้ายก่อน จากนั้นจึงค่อยเอาปลายเชือกทางขวา ทีละข้างร้อยย้อนจากซ้ายไปขวาตามเส้นทางเดิม คือเส้นนึงผ่านรอกตัวแรก แล้วสอดผ่านตาไก่กลับไปอีกด้านเพื่อร้อยผ่านห่วงกลมไล่ลงมาจนถึงห่วงสุดท้าย และทำเช่นเดียวกันกับเชือกเส้นที่ 2 คือร้อยจากซ้ายไปขวา ผ่านรอกแรก แล้วไปที่รอกอีกตัว แล้วจึงสอดผ่านตาไก่เพื่อทะลุไปอีกด้าน และทำแบบเดียวกันจนเสร็จ

สรุป
  • ประมาณจากราคาเสื่อกก ขนาด 120*200ซม ประมาณ 280 บาท (ร้าน ไทย ไทย จำหน่าย ร่ม มูลี่ เสื่อและเครื่องจักรสานทุกชนิด อยู่ตรงข้ามเจเจมอลล์ 084-000-2888, 084-000-1999 เดินหาซะเหนื่อยเลย แต่ร้านนี้เค้าขายส่งอยู่แล้ว เลยขายปลีกในราคาถูก และลดราคาให้ได้อีก ต้องคุยกับเจ้าของร้านเอาเองค่ะ)
  • หูเกี่ยวราวแขวน2-3ตัว 15 บาท
  • ห่วงกลม ขาย 10กรัม(ประมาณ115ตัว) ราคา 10 บาท
  • ไม้โครง หรือไม้จ๊อยหน้า 1*2 นิ้ว ตกมัดละ 10 แผ่น ราคาร้านก่อสร้างทั่วไป ขายมัดละ 250 มี ม่าน1ชุด น่าจะใช้ไม่เกิน 1 แผ่น ตีราคาประมาณ 25 บาท (ถ้าทำม่านหลายๆอัน ก็จะเฉลี่ยถูกลงค่ะ หรือ ซื้อตามปหล่ง บางโพ ลำลูกกา ก็น่าจะถูกกว่า หลากหลายกว่า ค่ะ แต่เอ๋ไม่สะดวก เพราะไม่มีรถ ถ้าจะให้มาส่งก็ไม่คุ้ม จำนวนที่ใช้ก็ไม่ถึงที่ร้านจะมาส่งให้ด้วยค่ะ เลยเอาใกล้ๆบ้าน และโดนมาก จะสั่งซื้อทางเนท แบบมีบริการส่งไปรษณีย์มากกว่า รวมค่าส่งแล้วก็คุ้มกว่าเสียค่ารถไปกลับไปเดินหาซื้อเองนะคะ แถมยังต้องเดินหาอีก หาทางเนทสะดวกดีค่ะ ได้ศึกษาข้อมูลสินค้า เปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้ออีกด้วย )
  • ชุดรอกและตัวหยุดเชือก * อันนี้ไม่ทราบราคาค่ะ เพราะไม่ได้ซื้อมา เพราะมีรอกจากม่านเก่าๆเอามารีใช้แทน แต่น่าจะไม่กี่บาทค่ะ แล้วแต่ยี่ห้อ และวัสดุ
  • ตาไก่ 2 ตัว 5 บาท (คร่าวๆค่ะ มีหลายราคามาก อยู่ที่เลือกใช้ และจำนวนที่ซื้อด้วยค่ะ)
  • เทปผ้า หรือ ผ้ากุ๊น หรือริบบิ้น รวมถึงเหล็กเส้น ยาว 110 ซม อันนี้จะมีไม่มีก็ได้ค่ะ แต่ในที่นี้ จากขนาดแค่120ซม ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ค่ะ
รวมๆราคาโดยประมาณ ค่าใช้จ่ายสำหรับทำม่านพับจากเสื่อ ไม่ถึง 400 บาท ต่อชุด(ประมาณจากเสื่อกก กุ๊นผ้าน้ำตาลขนาด120*200ซม) 


    

วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554

walk in closset ราคาประหยัดลง 50-75%

ปีที่แล้วช่วงก่อนน้ำท่วม อยากได้ตู้เสื้อผ้าใหม่ ที่มีขนาดและความจุมากกว่าเดิม เพราะเสื้อผ้าเริ่มล้น ต้องแบ่งไปเก็บที่ห้องอื่น แต่แบบที่ชอบๆ เสาะหาและตีราคาให้มาแสนจะแพง อย่างถูกๆที่สุด ถ้าบิ้วอินตู้สูงถึงฝ้า (ก็2.4ม) ความกว้าง 2.7 ม เป็นตู้สีขาวบานเลื่อน ภายในมีที่แขวน 2 ชั้น แบ่งเป็น3 ล็อก ตกราคา30,000-40,000 บาท

ชั่งใจอยู่สักพักค่ะ เพราะจากรูปแบบห้องซึ่งสามารถแบ่งสัดส่วนแยกเป็นตู้เสื้อผ้า walk in closet (ถึงแม้จะทำให้ห้องเล็กลงไปอีก จน แฟนบ่น)



จึงเริ่มหาข้อมูลทางเนทอยู่นานเป็นเดือนๆ เลือกร้านและกหล่วัสดุ อุปกรณ์ เพื่อทำเอง เนื่องจากไม่มีรถ จึงไม่สะดวกในการไปตะเวนหารซื้อสิ่งต่างๆได้เองง่ายๆ(เป็นคนชอบอยู่บ้าน ไม่ชอบออกไปไหนเท่าไหร่ด้วยอ่ะ) เช็คและสอบถามราคามาหลายเวบ จนลงเอยที่ตู้เสื้อผ้าแบบใช้รางเสาเหล็ก แล้วประกอบเอง หาอยู่หลายที่ ที่แรกที่โฮมโปร ราคาตกอยู่ประมาณ 98 บาท ต่อรางเดี่ยว 60 ซม แขนรับชั้นรางเดี่ยว 30ซม ต่ออันราคาประมาณ47 บาท (ไม่แน่ใจราคา นะคะ แต่จำได้ว่าราคาใช้ได้ปานกลาง ถ้าเทียบกับ แบรนด์ดัง หรือพวก index แต่ถ้าจะรับน้ำหนักมาก ใช้กับรางคู่ต้องซื้อ2อัน)

ภาพตัวอย่างไอเดียรางเสาที่ตั้งใจหา
และไปเจอเวบนึง ที่เจอแนะนำมาจากในBlog แต่จำแบรนด์ไม่ได้แล้วค่ะ เลยลองติดต่อดู  แต่ราคาออกจะแพงสักหน่อย  (นี่ที่เค้าตีราคามาให้มีแค่เฉพาะราคารางเสา 5เสา แขนรับชั้น ราวแขวนเองนะคะ ก็เกือบหมื่นละ ไหนจะค่าบานเลื่อนเปิดปิดเพื่อแบ่งเป็นตู้อีกตกบานละ 9,500 บาท 3 บาน อีก 28,500)

นี่คือแบบคร่าวๆที่เค้าออกมาให้



 แต่แบบคร่าวๆในใจที่ต้องการมันมากกว่านี้เยอะเลยค่ะ ดังนั้นโปรเจคนี้จึงใช้เวลานานสักหน่อย ตรงการหาอุปกรณืนี่แหล่ะค่ะ ส่วนแบบ ได้ออกแบบไว้แล้วโดยใช้ google sketup ประมาณนี้ค่ะ


- เซิทหาอยู่นานจนเจอร้านถูกใจร้านแรก ที่ทั้งถูกและดี เหล็กที่ใช้หนากว่าแข็งกว่าเยอะ ราคารางเสา เท่ากับความสูง คือถ้ารางสูง120 ซม ราคาก็ 120บาท แถมเป็นรางคู่ คือมี2รู รับน้ำหนักได้มากกว่า (คือปกติ มันจะแพงกว่ารางเดี่ยว)ส่วนแขนรับชั้นก็ราคาประมาณ30กว่าบาทถึง70กว่าบาท ขึ้นอยู่กับขนาด มีตั้งแต่ 27 ซม- 47ซม ค่ะ  ร้านนี้สามารถสั่งซื้อออนไลน์ผ่านหน้าเวบ และมีบริการส่งด้วยค่ะ  ถ้าใครสนใจ ให้เลือกสินค้าที่ใช้ชื่อว่า Heavy duty นะคะ จะถูกและแข็งแรง
http://www.tvmate-system.com  หรืออีกเวบ เป็นร้านเดียวกัน มีสินค้า fittingให้เลือกเยอะกว่า แต่ต้องโทรสั่งเอา เพราะไม่มีให้สั่งผ่านหน้าเวบ   www.cwt1990.com 
สินค้ามีลักษณะดังนี้ค่ะ
ตอนนั้นใช้เสาสูง180ซม 9ราง ราคาอยู่ที่ 1,620 บาท
แขนรับชั้นขนาด 37 ซม อีก 22 อัน อันละ  63บาท = 1,386 บาท
แขนรับชั้นขนาด27 ซม อีก 10 อัน อันละ 45บาท = 450 บาท
*เป็นแขนสำหรับรางคู่อยู่แล้วเลยใช้แค่1อันต่อรางชั้นพอค่ะ ไม่ต้องซื้อแยกซ้ายขวา
รวมราคาก็ 3,456 บาท

- ต่อไปก็หูรับราวแขวน  มีให้เลือกเยอะค่ะ หาได้จากทั้งโฮมโปร และตามร้านม่าน หรืออลูมิเนียม หรือจะไปตามร้านขายอุปกรณืfittting แถวบางโพก็ได้ ตามแต่ชอบ มีหลายราคา แต่ส่วนมากจะเป็นเห็กชุบซิ้ง มีทั้งแบบใช้กับราวรูไข่ และทรงกลม




แต่ยังไม่ถูกใจ และที่สำคัญคือ ขี้เกียจออกไปซื้อ ที่ละอย่าง2อย่าง(เสียทั้งเวลาและค่าเดินทางด้วย เพราะเค้าไม่ส่ง จะส่งก็ต้องซื้อขั้นต่ำ5พันถึง1หมื่น) แล้วแต่ร้าน ส่วนของที่โฮมโปร ช่วงนั้นพอดีไม่มีของ มีแต่ราวแบบร่างสุด เป็นเหล็กชุบซึ่งไม่ค่อยชอบรูปทรงและสีเท่าไหร่ แถมราคาตกประมาณ65-70กว่าบาทต่ออัน แต่ดีที่ไปเจอร้านค้าออนไลน์ทางเนทสำหรับผู้ชอบงานไม้มีหูราวแขวนขาย ตกตัวละ58 บาท แถมเป็นสแตนเลทอีกด้วย
ร้านนี้มีครบหลายอย่างที่ต้องการและถูกกว่าตามโฮมโปร แถมส่งฟรีถ้าสั่งเกิน1000 บาทเท่านั้น ถ้าไม่ถึง1000 บาท ก็เสียค่าส่ง100เดียวเองค่ะ คุ้มกว่าค่ารถไปซื้อเองอีกอ่ะ ชื่อ http://www.thaicarpenter.com

เลยสั่งหูราวแขวนไป 9ตัว รวม 522 บาท
รางลิ้นชัก Hafale ขนาด 14นิ้ว 12 ชุด ตกชุดละ 50 บาท รวม 600 บาท
รางลิ้นชักลูกปืน 45มิล 14นิ้ว อีก2ชุด ชุดละ160 รวมเป็น320 บาท
รวม 1,442 บาท

- ต่อไปก็คือหาบานเลื่อนค่ะ หาจากทั้งร้านที่ทำบานเลื่อนตู้เสื้อผ้าโดยเฉพาะ ของแต่ละแบรนด์ รวมถึงที่รับเหมาตกแต่ง แต่สู้ราคาไม่ไหว ราคาจะไม่หนีกันมากนักจากร้านแรก คือตกบานละ9500-16000 บาท แล้วแต่ว่าจะเลือกแบบ 2บาน หรือ3 บาน (นี่เป็นราคาที่เลือกใช้วัสดุที่ประหยัดสุดแล้วด้วยนะคะ มีหลายแบบมาก ถ้ามีกระจกมาก ก็จะยิ่งแพงขึ้นไปอีก ส่วนไม้ ก็จะเป็นไม่ปาติเคิลบอร์ด

ลองเปลี่ยนมาเลือกบานเลื่อนอลูมิเนียมแบบตามร้านอลูมิเนียมแทน เพราะอ่านเจอในเวบ มีคนแนะนำว่าถูกกว่า แต่ราคาก็ถูกกว่ากันไม่มาก เพราะหน้ากว้าง 2.7เมตร ถ้าจะให้แคบกว่านี้ ก็ต้องเสียค่าทำผนังเบาอีก รวมๆแล้ว เหยียบๆ2 หมื่น ตัดสินใจอยู่นาน เพราะไม่อยากให้งบเกินที่ตั้งไว้ เลยใจเย็น นั่งหาข้อมูลทางเนทต่อไป จนไปเจอร้านรับทำประตูไม้จากไม้สะเดา ชื่อร้าน ศรีรัฐ อยู่แถวลาดพร้าว71 ใกล้บ้านพอดี เป็นเวบสั่งซื้อผ่านเนท มีแบบให้เลือกมากมาย สามารถสั่งขนาดและแบบ ตามที่ต้องการได้
http://www.xn--72c1aapi2c1cwbvb6ewjka.com/index.php

จนได้บานไม้มา2บานเพื่อทำบานslide โดยไม่ต้องใช้วงกบ แต่ใช้รางเลื่อนและล้อแขวนของ Hafale แทน ราคาประตูอยู่ที่ 1850 ต่อบาน 2บานก็ 3700 บาท บริการส่งถึงบ้านฟรี

แต่สั่งขนาด 110 ซม*200 ซม แทนนะคะ

ค่าล้อแขวน 60Aของ Hafale 2ชุด สำหรับ2บาน ตกชุด380 รวม760 บาท ค่าราง210ซม 2 ราง อีก650 บาท(แนะนำว่าให้ไปซื้อตามร้านวัสดุ หรือตามบางโพ จะถูกกว่าที่โฮมโปรเกือบครึ่ง)

รวมราคาของสำหรับบานเลื่อนทั้งหมดตกอยู่ที่ 5110 บาท +ค่าแรงช่างเฟอร์มาติดตั้งให้ +ค่าไม้หน้าสามทำโครงและแผ่นสมาร์ทบอร์ดเพื่อกั้นผนังเบาในส่วนที่เหลือจากขนาดประตู+ ค่ากระจกฝ้าหนา 5 มิล อีก 2000 บาท รวมค่าทำประตูทั้งหมด 7110 บาท

 แบบที่ร่างไว้




ของจริงที่ทำเสร็จแล้วค่ะ

ขั้นต่อไปก็ขั้นตอนการทำราวแขวนและตู้ลิ้นชักต่างๆในตู้ ตามที่ออกแบบไว้ดังนี้

ที่แขวนกางเกง -สิ่งที่ต้องเตรียม
ราวอลูมิเนียมขนาด 4 หุน 1เส้นซื้อที่ร้านอลูมิเนียมแถวบ้าน ตัดแบ่งเป็นเส้นละ 40ซม ได้ 15เส้น ราคา 150 บาท +กับราวเหล็กขนาดเดียวกันที่เหลือใช้จากตู้เสื้อผ้าน็อคดาวเก่าอีกเป็น10แท่ง



 ยางโอริงไว้ใส่สวมเส้นอลูมิเนียมกันลื่น และยางสวมปลายอลูมิเนียม (ยางรองขาโต๊ะพับญี่ปุ่น) มีขายทั่วไปตามร้านอะไหล่ และโฮมโปร แต่เอ๋สั่งซื้อจากเวบตามเคย เพราะขี้เกียจเดินหาค่ะ มีขายทุกขนาดราคาไม่แพงรวมๆแล้วตก100 บาท



http://www.shawruang.com


ชื่อร้าน ช.เรืองอะไหล่ค่ะ มียางทุกแบบเลยค่ะ สั่งซื้อออนไลน์ และจัดส่ง


รวมค่าอุปกรณ์ที่เพิ่มมาในเซทนี้อีก 250 บาท


- มาถึงสิ่งสุดท้าย ซึ่งใช้เวลานานมากค่ะในการทำ ตอนนี้ยังไม่ได้ออกแรงหรอกนะคะ แต่ยากตรงหาร้านที่ขายไม้ ซึ่งเอ๋เลือกใช้ไม้MDF เพราะง่าย ไม่ต้องมาปิดผิวอีก โดยเฉพาะด้านขอบของแผ่นไม้ งานนี้ตั้งใจทาสีขาว ให้เป็นตู้เสื้อผ้าสีขาวทั้งห้อง
   ปัญหาใหญ่ของเอ๋คือ ไม่มีเลื่อยวงเดือนสำหรับตัดไม้แผ่นใหญ่ๆ ใช้แต่เลื่อยมือค่ะ เอ๋เลื่อยได้อย่างมากก็แค่ไม่เกิน 40 ซม ก็ปวดไหล่แล้วอ่ะ ถ้าให้เลื่อยจากแผ่น 120*240 ซม ให้เป็นชิ้นๆตามแบบเองทั้งหมด ไม่ไหวแน่เลย  เหมือนเคยค่ะ เซิทหาจากgoogle อยู่หลายเจ้า แต่ก็นะ ที่ขายและรับตัดให้ด้วยก็มี แต่ค่าตัดแพงๆๆ (ขนาดให้ตีราคาแค่ตัดแบบง่ายๆ ขนาดเท่าๆกัน คือแบ่งไม้เป็น12 ส่วน 40*60ซม ค่าตัดตกแผ่นละหลายร้อยบาท) นอกจากแพงแล้ว ยังไม่มีบริการส่งให้อีกด้วย ไอ้เราก็ไม่มีรถไปรับเองซะด้วยสิ
   โชคยังดี ไปเจอร้านนึง ชื่อร้าน นิชชา พาณิชย์ ค่ะ แต่อยู่ไกลบ้าน ร้านอยู่แถวๆซาฟารี แต่เห็นเค้าบอกว่ารับตัดตามแบบ เลยลองติดต่อดู เจ้าของร้านใจดีค่ะ เป็นสามีภรรยากัน ภรรยารับงาน สามีคุมงาน  พอได้ร้านแล้วก็เลยออกแบบร่างตัดไม้ เพื่อส่งให้ทางร้านตีราคาและตัดให้เลย (พวกรางประตูเลื่อนและล้อแขวน Hafale ก็สั่งจากที่นี่ด้วยค่ะ เค้าเป็นตัวแทนจำหน่าย เปิดดูแคตตาล็อกในเวบของ Hafale แล้ว สั่งได้เลย ราคาถูกกว่าซื้อตามห้างโฮมโปรเยอะ แถมตัดให้ด้วยตามขนาดที่เราต้องการ)
 * แบบที่ส่งไปก็มีดังนี้ค่ะ (ใช้ google sketup อย่างเคย แล้วเอามาเรียบเรียงอีกทีใน firework ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ตัวเองถนัดสุดอ่ะ จริงๆเค้าใช้โปรแกรมอื่นกัน ;)
   - ตู้ลิ้นชัก 2ชั้น 4 อัน


   - ตู้ลิ้นชัก เพื่อทำโต๊ะเครื่องแป้ง และ ราวกางเกงด้วย 1อัน

 - ลิ้นชักเดี่ยว 2 อัน
 - ราวกางเกง 1 อัน

 นอกนั้นก็เป็นแผ่นไม้บอร์ด ตัดตามขนาดในแบบ เพื่อวางเป็นชั้น และไว้ติดราวแขวน รวมส่งแบบไปให้ทางร้านตัด 7 แผ่น (มีแบบชั้นวางคอมและหน้าทีวีปนไปด้วยอีก1 งาน ซึ่งจะไว้ทำเพิ่มต่างหากด้วยค่ะ ไหนสั่งตัดและเค้ามาส่งให้ถึงบ้าน ก็เลยออกแบบเพิ่มให้คุ้มไปเลย)











ค่าตัด :-
แผ่นที่ 1  -  150
แผ่นที่ 2, 4, 5 - 450
แผ่นที่ 3, 6, 7 - 350
รวมค่าตัด 2,550 บาท

ค่า  MDF 15mm                             340 บาท x 7 แผ่น           =   2,380 บาท

ค่ารถจัดส่ง                                                                            =     400 บาท
  รวมทั้งสิ้น  5330 บาท
ร้านนิชชาพาณิชย์
843 ถ.หทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. 10510
086 336-1436, 02 906-7949
พอได้ของครบก็เริ่มลงมือประกอบตามแบบที่คิดไว้เลยค่ะ โดยใช้กาวลาเทคทาก่อน พอแห้ง ก็ยิงไม้ให้ติดกันด้วยปืนยิงตะปู ที่เอ๋ใช้จะเป็นแบบเสียบปลั๊กไฟได้เลย ไม่ต้องอัดลม ราคาซื้อมาจากโฮมโปรประมาณ 2000 บาท (จำราคาไม่ค่อยได้แล้วค่ะ แต่จำได้ว่าไม่แพง แล้วใช้งานคุ้มและสะดวกดี แต่สำหรับงานไม้และเหล็กเท่านั้นนะคะ ถ้าปูนต้องใช้ปืนยิงลม อีกรุ่นนึง แต่เอ๋ไม่มี ถ้าจะยึดอะไรกับปูน เอ๋จะใช้สว่านเจาะยึดกับสกรูแทนไปเลยค่ะ)

สว่านกระแทกเจาะผนัง เพื่อยึดรางเสากับผนัง (เป็นครั้งแรกเลยค่ะ ที่เจาะปูน เคยเจาะแต่ไม้ ค่อนข้างตื่นเต้น เพราะลุ้น กลัวทำเสีย แต่พอผ่านไปได้ก็ภูมิใจ และโล่งใจมากเลยค่ะ เย้ ต่อไปนี้ ฉันเจาะปูนเองได้แล้ว ไม่ต้องคอยหาช่างแล้วเย้ๆ)






ตอนทำไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะไม่ได้คิดว่าจะมาทำBlog ส่วนใหญ่เลยหาได้แต่รูปที่ทำเสร็จไปแล้ว










ซื้อราวอลูมิเนียมขนาด1 นิ้ว ราคา 240 บาท มาตัดทำราวแขวนเสื้อ ยาว 60 ซม 3 เส้น 70 ซม 1เส้น และ 80 ซม อีก 2เส้น ที่เหลือ อีกเกือบ 2เมตรเอาไปใช้ทำราวตากผ้าหลังบ้านได้ค่ะ

 แผ่นไม้ที่ใช้วางบนแขนรับชั้น ก็ติดตัวเหล็กฉากเล็กๆขนาด 1 ซม เพื่อช่วยเกี่ยวกับแขนกันเลื่อยตก ราคาจำไม่ได้แล้วอ่ะ ขายเป็นห่อ มีหลายตัว ราคาไม่ถึงร้อยค่ะ ตรงส่วนนี้ ถ้าจะประหยัดๆ ก็ใช้ตะปูหรือสกรูขันแทนก็ได้ค่ะ

มาถึงปัญหา ตอนทำตู้ลิ้นชักแบบ2ชั้น ตอนออกแบบดันออกแบบผิด คือกะจะให้มันแตกต่างกัน โดยไม่ให้หน้าลิ้นชักทับขอบ แต่ให้พอดีขอบดังรูปนี้


แต่ไอ้ความที่กะขนาดพอดีไปไม่ได้เผื่อไว้ พอทาสีแล้วกลายเป็น เกินพอดี จนฟิตไม่สามารถเข้ากล่องได้ เลยต้องมานั่งเลื่อยของข้างและล่างออก 1.5ซม (ทั้ง4ใบเลย)


แต่หน้าบานลิ้นชักมันดูกุดๆ สั้นไปยังไงไม่รู้ จะทับขอบก็ไม่เชิง แต่พอดี มีขอบคิ้วเล็กๆสีขาวตอนปูกระเบื้องห้องน้ำเหลือ 1เส้น เลยเอามาตัด ให้ได้ความยาว 15ซม ใช้เลื่อยตัดองสาเล็ก เลื่อยบากด้านข้างหน้าบานลิ้นชัก เข้าไปประมาณ1.2 ซม ให้ได้ขนาดตามรูป









โชคดีที่ขนาดมันชั่งพอดี







เสร็จแล้วติดที่จับลิ้นชัก ที่เลือกมา อันนี้ซื้อแบบสแตนเลท แต่ไม่แพง อยู่ที่ 80 บาท 12 อันก็ 960 บาท

จัดวางตู้และชั้นตามแบบ หรือตามความเหมาะสม สามารถปรับเปลี่ยนโยกย้ายได้แล้วแต่เราเลยค่ะ อ้อ ตู้ลิ้นชัก2ชั้น เอ๋เพิ่มล้อไปด้วยทุกใบเลย เพื่อเข็นเคลื่อนย้ายได้สะดวกค่ะ ราคาแล้วแต่จะเลือก มีตั้งแต่ล้อละ12 บาทถึงเกือบร้อย อันนี้ตามแต่งบ เอ๋เลือกแบบ 24บาท สีดำ ให้มองไม่ค่อยเห็นล้อค่ะ เอาแค่เลื่อนได้พอ หรือใครจะติดขาตู้ ที่มีขายให้เลือกเยอะแยะก็ได้นะคะ หรือไม่ก็ยกวางบนแขนรับชั้น ให้เป็นตู้ลอยให้หมดก็ได้ อันนี้ตามแต่ชอบ ช่วงน้ำท่วม เอ๋ก็ยกขึ้นให้ลอยสูงหมดกลัวน้ำมา กันไว้ก่อนค่ะ แต่โชคดีที่ไม่ท่วม
รูปหลังเส็จแล้ว ค่ะ ออกจะรกๆหน่อย เพราะของก็ยังเยอะอยู่ดี 55 แถมชั้นที่ตอนแรกออกแบบไว้ ก็ลดลงด้วยค่ะ เพราะพอจัดวางเข้าจริงๆ เสื้อดันยาว จนต้องลดชั้นออกไป ก็ตัวสูงทั้งคู่เลยอ่ะ ยิ่งเสื้อคุณพ่อบ้าน ถ้าคนทั่วไปใส่ คงจะเป็นชุดแสกแน่ค่ะ เพราะเค้าสูงเกือบ2 เมตร




ลองรวมงบประมาณที่ใช้ไปทั้งหมด

เสาและแขนรับชั้น 3,456 บาท
รางลิ้นชัก หูราวแขวน 1,442 บาท
บานประตู ราง และล้อ ผนังเบา กระจกฝ้าและค่าแรงช่างติดตั้ง รวม 7110 บาท
ราวอลูมิเนียมและอุปกรณ์ทำราวกางเกง 250 บาท
ราวแขวนผ้า 240 บาท
มือจับลิ้นชัก 960 บาท
ค่าไม้ MDF และค่าตัด  5330 บาท
ค่าสีน้ำทาไม้ เบเยอร์  670 บาท
รวมราคา ตู้เสื้อผ้า walk in closet เบ็ดเสร็จ เป็นเงิน 19,458 บาท


รวมเวลาหาของเกือบ 2 เดือน ลงมือทำเดือนกว่าๆ (ติดหน้าฝนต้องคอยขนของหลบฝนตลอด) ได้ตู้เสื้อผ้าอย่างที่ต้องการมาในราคาไม่ถึง 2หมื่น ถึงฝีมือจะไม่เนียบอย่างมืออาชีพ แต่ก็ได้ความภูมิใจและประโยชน์ใช้สอยครบตามที่ต้องการค่ะ